การดื่มชาให้ได้ประโยชน์ ไม่ใช่แค่เรื่องของ “ชนิดของชา” เท่านั้น แต่ “วิธีดื่ม” ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะบางพฤติกรรมอาจทำให้คุณเสียประโยชน์จากชาไปแบบไม่รู้ตัว ลองมาดูวิธีดื่มชาอย่างถูกต้องเพื่อสุขภาพกัน
✅ 1. เลือกชาที่ใช่
- ชาเขียว – มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Catechins) สูง ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และช่วยเผาผลาญไขมัน
- ชาขาว – อ่อนโยนที่สุด มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเช่นกัน เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย
- ชาอู่หลง – ช่วยควบคุมน้ำหนัก และระบบย่อยอาหาร
- ชาดำ – มีคาเฟอีนมากกว่าชาชนิดอื่น เหมาะกับคนที่ต้องการกระตุ้นสมอง
✅ 2. ดื่มใน “เวลา” ที่เหมาะสม
- ช่วงเช้า: ดื่มชาดำหรือชาเขียวจะช่วยกระตุ้นสมองและระบบเผาผลาญ
- หลังอาหาร: ดื่มชาอู่หลงหรือชาเขียวอ่อนๆ ช่วยย่อยอาหาร
- ก่อนนอน: หลีกเลี่ยงชาเพราะคาเฟอีนอาจรบกวนการนอน ถ้าจะดื่ม ควรเลือกชาไม่มีคาเฟอีน เช่น ชาคาโมมายล์ หรือชาสมุนไพร
✅ 3. ไม่ใส่น้ำตาลหรือครีมเทียมเยอะเกินไป
- การเติมน้ำตาลหรือครีมเทียมมากเกินไป อาจลดทอนประโยชน์ของชา
- หากต้องการความหวาน แนะนำให้ใช้ น้ำผึ้ง หรือ หญ้าหวาน (Stevia) แทน
✅ 4. หลีกเลี่ยงการดื่มขณะท้องว่าง
- โดยเฉพาะชาเขียว เพราะอาจระคายกระเพาะหรือทำให้คลื่นไส้
- แนะนำให้ดื่มหลังอาหารประมาณ 30 นาที
✅ 5. ไม่ควรดื่มชาร้อนจัด
- ความร้อนสูงอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งหลอดอาหาร
- ควรรอให้ชาลดอุณหภูมิลงบ้างก่อนดื่ม (ประมาณ 60–65°C)
✅ 6. ดื่มในปริมาณพอเหมาะ
- วันละ 2–3 ถ้วย กำลังดี
- หากดื่มมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้น้อยลง และเสี่ยงต่อการนอนไม่หลับ
✅ 7. ไม่ควรดื่มพร้อมวิตามินหรืออาหารเสริม
- ชามี แทนนิน (Tannins) ที่อาจรบกวนการดูดซึมธาตุบางชนิด เช่น ธาตุเหล็ก
- ควรเว้นช่วงอย่างน้อย 1 ชั่วโมงหลังการกินอาหารเสริม
✨ สรุป
การดื่มชาให้ได้ประโยชน์ ไม่ใช่แค่เลือกชาให้ดี แต่ต้องรู้จัก “ดื่มให้เป็น” ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเวลา ปริมาณ และสิ่งที่กินคู่กัน ล้วนมีผลต่อสุขภาพ
ที่มา : ดื่มชาอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด? เคล็ดลับง่ายๆ ที่หลายคนยังไม่รู้!